การไปสอบ The Consortium C/O UNHCR (World Experiment In International Living, World Education & Save the Children) ในวันนั้น ไม่ได้เตรียนตัวอะไรเลย นอกจากความมั่นหน้า มั่นโหนกของตัวเอง กางเกงยีนส์ รองเท้าผ้าใบคอนเวิร์ส เสื้อเชิตแขนสั้น แต่รอบนี้ใส่หมวก Gap สีแดงแป๊ด ไปด้วย 555 ไปแต่เข้าในวันเสาร์ ช่วงเช้า สอบข้อเขียน Michigan Test แล้วรอฟังผล ช่วงบ่ายเลยต้องรอสอบสัมภาษณ์กับฝรั่งเลย เพราะดันสอบข้อเขียนผ่านสอบเสร็จเย็นเลย
กลับบ้าน คุยกับตาสุนทรและยายสงวน เล่าให้ฟัง หัวเราะสนุกสนาน กับความเปิ่น ๆ ตอนสัมภาษณ์ ผลปรากฏว่า วันถัดมาวันอาทิตย์ตอนบ่าย ๆ มีฝรั่งโทรมาที่บ้านบอกว่า Mr.Horanop , We would like to offer a job with us , your given salary is THB xx,xxx.xx รวมทุกอย่าง ซี่งขณะนั้นถือว่าเงินเดือนสูงมาก สูงกว่าวุฒิ ป.ตรีไทย เกือบ 3 เท่า แนะ และ You have to start working on xxx และทำงาน ที่ Refugee Camp ที่ อ.พนัสนิคม จ.ชลบุรี เวรหละดิ อีกไม่กี่วันนี่หว่า คุยกับตาสุนทรกะยายสงวนอีก ว่าเอาไงดี ซึ่งทั้งสอง บอกแล้วแต่ลูก พร้อมสนับสนุนทุกอย่าง ขับรถพาไปหาบ้านเช่าที่นั่น จนเริ่มทำงานไป
มารู้ทีหลังว่า ได้เป็นหนึ่งใน 10 กว่าคนที่ผ่านเข้ามาได้จากผู้สมัคร เกือบ 300 คน แต่แรงกดดันสูงมาก ในช่วงแรก ๆ ด้วยเราไม่ได้เรียบจบ มหาวิทยาลัยจากเมืองนอก ไม่ได้พูดไปแบบยักไหล่ไป You Know!…You Know!.. ไม่ได้พูด ร๊อบบินสัน แต่กลับพูด โรบินสัน ฯลฯ 555 แต่เราเลือกแล้วนิ ต้องผ่านไปให้ได้ ไม่ยอมแพ้กับมันหลอก ยอมนอนดึกหลังเลิกงานต่อเนื่องกัน 3-4 เดือนจนทำแผนงานตัวเองเพื่อเตรียมตัวทำงานใน Camp ในวันรุ่งขี้นได้
ผมเข้าบรรจุงานที่เรียกว่า Cycle 63 สังกัด PASS-ESL คือรับผิดชอบพัฒนาความรู้ ทักษะต่าง ๆ ในการภาษาอังกฤษในฐานะภาษาที่สอง English As The Second Language ให้กับผู้ลี้ภัยวัยรุ่นตอนต้น สนุกดิครับ ตรงจริต เป็นตัวของตัวเองมาก สนุกสนาน เป็นขวัญใจ เด็ก ๆ ก้อว่าได้ ใน Camp พวกเราจะใช้นามสกุล เป็นชื่อเรียก ผมเลยถูกเรียกเป็น Mr.Horanop และบ้างเรียก Mr.Nop
พอทำงานไปสักเดือนหนึ่งมั้ง สาวเอกเยอรมันคนนั้นก้อ โทรศัพท์มาบอกว่า “พี่ตุ้ย ดีใจด้วยนะเรียนจบแล้ว”
ด้วยเพราะเธอไปดูผลสอบตัวสุดท้ายที่รอประกาศให้ เลยกลายเป็นคนแรกที่รู้เลยว่าผมเรียนจบ คณะบริหารธุรกิจ ป.ตรี สาขาวิชาเอกโฆษณาและประชาสัมพันธ์ (เฮ้ย จบ 3 ปีจริงเว้ยเฮ้ย)
นอกจากทำงานแล้วใช้ชีวิตต้องคุ้ม ที่ไหนมีสังสรรค์ มีปาร๋ตี้ ต้องมี อ้ายตุ้ย คน นี้ จนได้ฉายา Party Animal ขี่จักรยานร่อนไปบ้านโน้นทีบ้านนี้ที บางคราวรวมตัวเช่ารถสองแถวจาก อ.พนัสนิคม เพื่อไปเที่ยว Disco Duck ที่พัทยา แล้วตอนเช้าทำงานต่อ สบายมาก พวกเราชอบผวนคำกัน จนผมได้ จากชื่อ-นามสกุลจริง “สรวุฒิ หรณพ” ได้ชื่อผวนว่า “หอ-ระ-นวย-น่า-คบ” บ้างก้อเรียก “สอ-ระ-ววย-หัว-คุด” ฮา กันไป ตลอด
ที่บ้านเช่าที่พนัสนิคม เราเช่ากัน 3 คน ห้องใครห้องมัน ผมหละน้องสุด มีพี่อ๊อด พี่ตั๊ก เป็น Housemaid ที่ผูกพันกันมาตลอด มีพี่เนย์ จอมพยักหน้าเวลาคุยอีกคนแวะเวียนมาเป็นระยะ ๆ ผมมักจะรับหน้าทีเป็น Chef ไปตลาด ไปซื้อของสดมาทำกินกันเองแบบเจออะไรถูกใจก้อซื้อมาทำเลย ด้วยอาหารสด ๆ ง่าย ๆ เป็นระยะ ๆ
จำได้ว่ารถเข้า Camp มีเป็นรอบๆ บางรอบพวกเรานั่งรถไปร้องเพลงแบบเปิด Concert กันเลย เพลงไทยบ้าง อังกฤษ บ้าง บางทีร้องกันเอง บางทีร้องตามเพลงที่เปิดในรถ โคตรดีเลย ขอบอก Don’t Worry-Be Happy !
มีบางเวลารับสอนภาษาไทยให้กับฝรั่งที่มาทำงานที่ Refugee Camp หารายได้เสริม สนุกดี และเกือบไปมีแฟนอีกคน เป็นสาวชาวอังกฤษเสียแล้ว เธอชื่อ SSSSS แต่ผมยังยึดมั่นกับน้องเอกเยอรมันคนนั้นนะ…จบข่าว
ทำงานมาเรื่อย ๆ จนต่อมาได้รับการแต่งตั้งเป็น Specialist จนขึ้นมาเป็น Senior ลูกแลลูกทีมนะเออ ทำที่ Refugee Camp กว่า 3 ปีเห็นจะได้ (Photo Attached คือ สำเนาบัตรประจำตัวสำหรับเข้า Refugee Camp เพื่อไปทำงาน)

To Inspire People To Power The Future!